1. ไตจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่ (Living Donor)
ซึ่งในทางกฎหมายผู้บริจาคจะต้องเป็นญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เช่นพ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หรือเป็นการบริจาคโดยสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันมาไม่น้อยกว่า 3 ปี จึงจะสามารถทำเรื่องขอบริจาคได้ แต่หากในกรณีที่ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน ก็ไม่จำเป็นต้องรอจนครบ 3 ปี
ผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องได้รับการตรวจร่างกายโดยละเอียด เพื่อให้มีความแน่ชัดว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียงพอที่จะสละไตออกได้ 1 ข้างโดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
ผู้บริจาคต้องมีความเข้าใจในเรื่องการบริจาค มีความตั้งใจ เต็มใจ ที่จะช่วยเหลืออย่างบริสุทธิ์ใจ ปราศจากอามิสสินจ้างตอบแทน
ภายหลังการบริจาคไต ผู้บริจาคไตจะเหลือไตเพียงข้างเดียวและใช้เวลาในการพักฟื้น 2-4 สัปดาห์ ผู้บริจาคจะยังคงมีสุขภาพปกติ แข็งแรงเหมือนคนที่มีไต 2 ข้างตามปกติ
ผู้ป่วยสามารถทำงาน ออกกำลังกาย เดินทาง และมีอายุยืนยาวเหมือนคนปกติ เพียงแต่ควรระมัดระวังดูแลไตที่เหลือไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระเทือนต่อไต และควบคุมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไตจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่ มักทำงานเป็นปกติอยู่ได้นานประมาณ 12 – 20 ปี ก่อนที่จะต้องได้รับการบริจาคไตใหม่